การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/ที่ดินจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเจ้าของเก่าได้ทำการขายห้องชุดคอนโด/ที่ดินให้กับเจ้าของใหม่เพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราเข้ามาแล้วแทนด้วยชื่อของเจ้าของใหม่ โดยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโด/ที่ดินจะเป็นขั้นตอนที่ทั้งสองได้ทำการจ่ายเงินมัดจำ เงินที่ซื้อห้องชุดและที่ดินเรียบร้อยแล้วหรือจ่ายกันในวันที่ทำการโอนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของทั้งสอง โดยขั้นตอนทั้งหมดจำเป็นการทำตามขั้นตอนการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อยก่อนจะจะส่งมอบเอกสารกรรมสิทธิ์ห้อง/ที่ดินให้กับเจ้าของใหม่
ขั้นตอนที่คุณต้องรู้การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/ที่ดิน
เตรียมเอกสาร
- ผู้โอน
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ (โฉนดที่ดิน/หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด)
- ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมการโอน (กรณีมี)
- ผู้รับโอน
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสือยินยอมของคู่สมรส (กรณีมีคู่สมรส)
- ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมการโอน (กรณีมี)
ยื่นคำร้องขอโอนกรรมสิทธิ์
การยื่นคำร้องขอโอนกรรมสิทธิ์การโอนคุณจำเป็นต้องดำเนินเพื่อติดต่อเรื่องของการทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้น โดยที่เจ้าของใหม่ไม่จำเป็นต้องทำ เนื่องจากคุณเป็นผู้ขายดังนั้นหน้าที่ในการดำเนินการในส่วนนี้ควรเป็นคุณหรือเป็นหน้าที่ของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์หรือเจ้าหน้าที่นิติบุคคล
- ไปที่สำนักงานที่ดินตั้งอยู่
- กรอกใบคำร้องขอโอนกรรมสิทธิ์
- แสดงเอกสารต่อเจ้าหน้าที่
- ชำระค่าธรรมเนียมการโอน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร
- เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
- ตรวจสอบว่าผู้โอนมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจริงหรือไม่
- ตรวจสอบว่าไม่มีภาระผูกพันใด ๆ กับทรัพย์สิน
ลงนามในสัญญาโอนกรรมสิทธิ์
- เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยแล้ว ผู้โอนและผู้รับโอนจะต้องลงนามในสัญญาโอนกรรมสิทธิ์
รับโฉนดที่ดิน/หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด
- เจ้าหน้าที่จะออกโฉนดที่ดิน/หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดใหม่ให้กับผู้รับโอน
- ควรตรวจสอบกับสำนักงานที่ดินก่อนดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์
ใครเป็นผู้รับผิดชอบการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/ที่ดิน
ผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/ที่ดิน
โดยทั่วไปแล้ว ผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/ที่ดินจะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ผู้โอนและผู้รับโอน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างทั้งสองฝ่าย
รายการค่าธรรมเนียม
- ค่าธรรมเนียมการโอน: คิดเป็น 2% ของราคาประเมินที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง โดยทั่วไป แบ่งจ่ายกันคนละ 1% ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ: คิด 3.3% ของราคาซื้อขาย โดยทั่วไปเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย
- ค่าอากรแสตมป์: คิด 0.5% ของราคาซื้อขาย แต่ต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินที่ดิน หากต่ำกว่า ให้ใช้ราคาประเมินที่ดินมาคำนวณ โดยทั่วไปเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย
- ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ: เช่น ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้าง
ตัวอย่าง
- กรณีผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดา: ผู้ขายมักจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าอากรแสตมป์ ส่วนค่าธรรมเนียมการโอน ผู้ซื้อและผู้ขายจะแบ่งจ่ายกันคนละ 1%
- กรณีผู้ขายเป็นนิติบุคคล: นิติบุคคลมักจะเสนอขายห้องชุด/ที่ดินในราคารวมค่าธรรมเนียมการโอนแล้ว ผู้ซื้อจึงไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนเพิ่ม
หมายเหตุ
- ขั้นตอนและค่าธรรมเนียมการโอนอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับประเภทของทรัพย์สินและเงื่อนไขอื่น ๆ
ข้อแนะนำ
- ควรตรวจสอบราคาประเมินที่ดินก่อน เพื่อคำนวณค่าธรรมเนียมการโอน
- ควรตกลงกันให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง
- ควรเตรียมเงินสดให้เพียงพอสำหรับการชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
โอนกรรมสิทธิ์ใช้เวลากี่วัน
ระยะเวลาในการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด/ที่ดินจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- ประเภทของทรัพย์สิน
- ที่ดิน: โดยทั่วไปใช้เวลา 15-20 วันทำการ
- ห้องชุด: โดยทั่วไปใช้เวลา 7-10 วันทำการ
- ความครบถ้วนของเอกสาร
- หากเอกสารครบถ้วน process จะรวดเร็วขึ้น
- หากเอกสารไม่ครบถ้วน เจ้าหน้าที่อาจต้องขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ใช้เวลานานขึ้น
- จำนวนผู้ยื่นคำร้อง
- ในช่วงที่มีผู้ยื่นคำร้องจำนวนมาก process อาจใช้เวลานานขึ้น
- ระบบการทำงานของสำนักงานที่ดิน
- แต่ละสำนักงานที่ดินอาจมีระบบการทำงานที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อระยะเวลา
โดยทั่วไปแล้ว การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจะใช้เวลาประมาณ 7-10 วันทำการ และ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจะใช้เวลาประมาณ 15-20 วันทำการ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ติดต่อสำนักงานที่ดินโดยตรงเพื่อสอบถามระยะเวลาที่แน่นอน
แหล่งข้อมูล กรมที่ดิน: https://dol.go.th/
ติดตามข่าวสาร และบริการของ PM Service ได้ที่นี่ที่เดียว